แหล่งสารสนเทศจังหวัดกระบี่

MojiMoji


 แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถาบัน  “  ห้องสมุดประชาชนจังหวัดกระบี่  ”

ข้อมูลทั่วไป

            ห้องสมุดประชาชนจังหวัดกระบี่ ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2514และเปิดบริการเมื่อปีพ.ศ.2515 เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของชุมชนที่สามารถตอบสนอง การศึกษาหาความรู้ของประชาชนให้มีความรู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ห้องสมุดประชาชนจังหวัดกระบี่ สังกัดศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน สำนักบริหารการศึกษานอกโรงเรียน สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ       

สถานที่ตั้ง

ตั้งอยู่ ถนนอุตรกิจ  ตำบลปากน้ำ  อำเภอปากน้ำ  จังหวัดกระบี่  81000   โทรศัพท์ 075-611367

วันเวลาทำการ

เปิดบริการทุกวัน 08.00-17.00 น.  หยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์

 เว็บไซต์

 http://krabi.nfe.go.th/mk_lib/

วัตถุประสงค์

1.              เพื่อให้ห้องสมุดเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ตลอดชีวิต  ห้องสมุดเป็นศูนย์ส่งเสริมตามอัธยาศัย
2.             เพื่อให้นักเรียน / นักศึกษา และประชาชนทั่วไปใช้ห้องสมุดเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ ค้นหาความรู้
3.             เพิ่มเติมและมีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและช่วนเสริมรายได้
4.             เพื่อบริการและรองรับนักเรียน , นักศึกษาและประชาชนทั่วไปค้นคว้าข้อมูล สาระสำคัญและพบกลุ่มนักศึกษา กศน. เพื่อนำไปใช้ด้านการศึกษาและในชีวิตประจำวันรวมถึงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 
5.             เพื่อให้เยาวชน / นักศึกษา / ประชาชนทั่วไป ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 
6.             เพื่อให้ห้องสมุดเป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสาร (Information center) ของประชาชน ที่มาหาข้อมูลที่ต้องการได้ เช่น ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐานข้อมูลเบื้องต้นทุกประเภทแก่ผู้ใช้บริการ 
7.             จัดกิจกรรมที่น่าสนใจเพื่อประชาชนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ สามารถนำกิจกรรมที่เปิดบริการไปประยุกต์ใช้งานต่อไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน 
8.             จัดการเรียนกิจกรรมการเรียนรู้ขึ้นในห้องสมุด เช่น จัดการเรียนหลักสูตรระยะสั้น ๆ โดยเชื่อมโยงเนื้อหาในห้องสมุด อาทิ การฝึกอบรมระยะสั้น เช่น ภาษาอังกฤษ , การร้อยเครื่องประดับด้วยลูกปัด 
9.             จัดสถานที่ให้เอื้ออำนวยให้บุคคลในชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ในการจัดกิจกรรมของชุมชนในห้องสมุดได้

บริการ

รายละเอียด
1.             เพื่อบริการการรับสมัครสมาชิกห้องสมุด
2.             บริการยืม - คืน หนังสือและสื่อจากสมาชิกห้องสมุด 
3.             บริการสืบค้นข้อมูลทาง Internet
4.             เพื่อบริการและรองรับนักเรียน , นักศึกษาและประชาชนทั่วไปค้นคว้าข้อมูล สาระสำคัญและพบกลุ่มของนักศึกษา กศน. เพื่อนำไปใช้ด้านการศึกษาและในชีวิตประจำวันรวมถึงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 
5.             บริการตอบคำถาม / แนะนำผู้มาใช้บริการห้องสมุด 
6.             บริการติดต่อสอบถามข้อมูลที่ต้องการ 
7.             จัดกิจกรรมที่น่าสนใจเพื่อประชาชนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ สามารถนำกิจกรรมที่เปิดบริการไปประยุกต์ใช้งานต่อไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน 
8.             จัดการเรียนกิจกรรมการเรียนรู้ขึ้นในห้องสมุด เช่น จัดการเรียนหลักสูตรระยะสั้น ๆ โดยเชื่อมโยงเนื้อหาในห้องสมุด อาทิ การฝึกอบรมระยะสั้น เช่น ภาษาอังกฤษ , การร้อยเครื่องประดับด้วยลูกปัด 
9.             จัดสถานที่ให้เอื้ออำนวยให้บุคคลในชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ในการจัดกิจกรรมของชุมชนในห้องสมุดได้

แผนปฏิบัติงาน

วิสัยทัศน์    

ห้องสมุดประชาชนจังหวัดกระบี่ เป็นแหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัยส่งเสริมการเรียนรู้ทุกรูปแบบ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

 ลักษณะงานห้องสมุดประชาชน 

(งานบริการ + งานเทคนิค)  -------->  งานบริการ   -------->  ผู้รับบริการ   <-------  (งานวิชาการ  +  งานกิจกรรม ) 

  เครือข่ายห้องสมุดประชาชนจังหวัดกระบี่ 

1.ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดกระบี่
2.ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียน อำเภอเมืองกระบี่ 
3.ศูนย์การเรียนรู้เขตพื้นที่การศึกษากระบี่
4.เทศบาลเมืองกระบี่
5.ศูนย์การเรียนชุมชนในเขตอำเภอเมือง
6.โรงเรียนทุกสังกัดในเขตอำเภอเมือง
7.องค์กรภาครัฐและเอกชนในเขตอำเภอเมือง
8.องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ 

แผนการปฏิบัติงานห้องสมุดประชาชนจังหวัดกระบี่

งานบริการ

1.จัดซื้อจัดหาหนังสือสื่อสิ่งพิมพ์ ตามความต้องการของผู้ใช้บริการ 
2.จัดซื้อจัดหาสื่ออิเล็กทรอนิกส์
3.จัดซื้อจัดหาหนังสือพิมพ์ / วารสาร 
4.รับสมัครสมาชิก
5.บริการอินเทอร์เน็ต
6.ซ่อมหนังสือ / เย็บเล่มวารสาร 

งานกิจกรรม / โครงการ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

1.โครงการพัฒนาห้องสมุดประชาชนให้มีชีวิตชีวา
2.โครงการตลาดนัดหนังสือมือสอง
3.โครงการส่งเสริมอาชีพระยะสั้น
4.โครงการตระกร้าความรู้สู่ชุมชน
5.โครงการประดิษฐ์กระทงใบตองอนุรักษ์ประเพณีไทย
6.โครงการวันเด็กแห่งชาติ
7.โครงการประดิษฐ์ดอกไม้จากผ้าใยบัว
8.โครงการค่ายเยาวชนคนรักการอ่าน ภาคฤดูร้อน ปีที่ 2
9.โครงการประดิษฐ์ดอกบัววิสาขะ
10.โครงการห้องสมุดสัญจร
11.โครงการสัปดาห์ห้องสมุด
12.กิจการนิทรรศการวันสำคัญ

งานพัฒนาปรับปรุงภายใน - ภายนอกห้องสมุด 

1.การบริการ
2.อาคารสถานที่ภายใน – ภายนอก
3.ความสะอาด

 งานประชาสัมพันธ์ของห้องสมุด / เครือข่าย

1.กิจกรรมห้องสมุด
2.กิจกรรมเครือข่าย

ระเบียบการยืม-คืน

ระเบียบการสมัครสมาชิกห้องสมุด 
1.สำเนาบัตรประชาชน   1  ใบ
2.รูปถ่ายจำนวน   2  รูป
3.ยืมได้ครั้งละ   4  เล่ม
4.ยืมได้ครั้งละ   7  วัน
ระเบียบการยืมหนังสือ / สื่อของห้องสมุด
1.แสดงบัตรทุกครั้งที่ยืมสื่อ (เฉพาะเจ้าของบัตรเท่านั้น)
2.ยืมหนังสือครั้งละไม่เกิน 2 เล่ม นาน 7 วัน
3.ยืมวีดีโอเทปซีดีครั้งละไม่เกิน 2 ชิ้น  นาน 3 วัน
4.คืนหนังสือเกินกำหนดปรับวันละ 2 บาท  ต่อเล่ม
 5.คืนสื่ออื่นเกินกำหนดปรับวันละ 2 บาท  ต่อชิ้น
 6.ส่งหนังสือคืนไม่หมดจะยืมใหม่ไม่ได้  (โทร.075-611367)
7.หากทำหนังสือหรือสื่ออื่น ๆหายให้ชดใช้ตามราคา


แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถานที่ “  พิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม  ”

เป็นสถานที่รวบรวมโบราณวัตถุที่ค้นพบได้ในบริเวณ ควนลูกปัดซึ่งอยู่ด้านหลังวัดคลองท่อม และเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญของประเทศ จากการสำรวจโดยกรมศิลปากร พบโบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น เหรียญโลหะ เศษภาชนะดินเผา เครื่องประดับทำจากหิน แก้ว สำริด ทองคำ ฯลฯ เมื่อไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะได้ชมความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของเมืองกระบี่ กระบี่

ที่ตั้งพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม

อยู่ในวัดคลองท่อม ถ. เพชรเกษม ต. คลองท่อมใต้ อ. คลองท่อม ห่างจากที่ว่าการ อ. คลองท่อมประมาณ 1 กม.


เวลาเปิดให้เข้าชม

เช้า  : 08.3012.00
บ่าย : 13.0016.30
ปิดทำการ : ทุกวันพุธของสัปดาห์

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม

๑.เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมลูกปัด และโบราณวัตถุของชุมชนคลองท่อมโบราณ
๒. เพื่อเป็นแหลงเรียนรู้ของเยาวชน และประชาชน
๓. เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดี
๔. เพื่ออนุรักษ์ลูกปัด และ วัตถุโบราณไว้ให้บุคคลรุ่นหลังได้ชมและศึกษาต่อไป


การเดินทาง

จาก อ. คลองท่อม ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ไปทาง จ. ตรัง ผ่านตลาด สภ.อ. คลองท่อมไป 600 ม. พบวัดคลองท่อมอยู่ทางซ้ายมือ

รถประจำทางพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม

ขึ้นรถสายกระบี่-หัวหิน-เกาะลันเตา


ประวัติพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม

ในปี พ.ศ. 2523 กรมศิลปากรได้ขุดค้นเนินดินที่หมู่ 2 บ้านควนลูกปัด ต. คลองท่อมใต้ พบลูกปัดโบราณ รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้อีกมากมาย จึงสันนิษฐานว่าในอดีตบริเวณนี้น่าจะเป็นแหล่งชุมชนหรือเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งในเส้นทางการค้าระหว่างอินเดียใต้กับเเชียอาคเนย์ เพราะโบราณวัตถุบางชิ้นเป็นของจากดินแดนอันห่างไกล ทั้งจากอินเดีย โรมัน เปอร์เซีย และอาหรับ อีกทั้งน่าจะเคยเป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรมลูกปัดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในดินแดนแถบนี้ ต่อมาโบราณวัตถุเหล่านี้ถูกขุดขโมยเรื่อยมาจนสูญหายไปเป็นจำนวนมาก พระครูอาทรสังวรกิจ เจ้าอาวาสวัดคลองท่อมเกรงว่าสมบัติของชาติจะถูกทำลายโดยไม่มีเหลือ ราวปี พ.ศ. 2525 จึงเริ่มซื้อรวบรวมลูกปัดและโบราณวัตถุจากชาวบ้านมาเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์

สิ่งที่น่าสนใจพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม

ชั้นล่างของพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม


จัดแสดงโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์บนชั้นเหล็ก ของส่วนใหญ่เป็นเศษโบราณวัตถุ เช่น เศษแก้ว เศษถ้วยโถโอชาม นอกจากนี้ยังมีสิ่งของขนาดใหญ่ เช่น ครกหิน หินบดยา หินลับ และเครื่องมือเครื่องใช้สมัยก่อน เช่น ขวานหิน


ชั้นบนของพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม


 แบ่งเป็นปีกซ้ายและปีกขวา ปีกขวาเป็นของจำพวก กำไล แหวน ขวานหินขนาดและรูปแบบต่างๆ แสดงอยู่ในตู้กระจก มีป้ายเล็กๆ บอกชื่อสิ่งของ  บริเวณปีกซ้าย เป็นส่วนที่จัดแสดงได้น่าสนใจและเป็นระบบกว่าส่วนอื่น ของชิ้นสำคัญจะนำมาแสดงที่ห้องนี้ โดยจัดวางในตู้กระจกติดไฟอย่างดี มองเห็นรายละเอียดที่ปรากฏบนโบราณวัตถุแต่ละชิ้นได้ชัดเจน มีคำอธิบายประกอบ โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ เช่น ลูกปัดหน้าคน สันนิษฐานว่าเป็นรูป
พระสุริยะเทพซึ่งได้รับอิทธิพลจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน แก้วหลอมและเศษแก้วหลายสี บางก้อนมีเศษลูกปัดติดอยู่ในเนื้อแก้ว จึงสันนิษฐานว่าควนลูกปัดเคยเป็นแหล่งผลิตแก้วและลูกปัด ตราประทับที่จารึกด้วยอักษรปัลลวะ (ภาษาอินเดียใต้) อายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 10-12 ลูกปัดหินหลายสีหลายขนาด ลุกปัดทองคำ และเครื่องประดับจำนวนมาก เช่น แหวนทองคำ กำไลเงิน ตุ้มหูสัมฤทธิ์ ฯลฯ

แหล่งโบราณคดีถ้ำหลังโรงเรียนทับปริก

สถานที่ตั้ง          หลังโรงเรียนทับปริก อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

ประวัติความเป็นมา

          ารสำรวจแหล่งโบราณคดีในจังหวัดกระบี่  เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗ โดยศาสตราจารย์ ดร. ดักลาส แอนเดอร์สัน และ  ดร.  วรรณี  วิบูลสวัสดิ์ แอนเดอร์สัน ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้มีการสำรวจอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้  มี ดร.พรชัย สุจิตต์ ร่วมด้วย โดยได้รับความร่วมมือจากคุณวินัย และคุณโอวาท อุกฤษณ์ ในการติดต่อกับผู้ให้ข้อมูล พบว่ามีแหล่งโบราณคดีถึง  ๑๐  แหล่ง  ต่อมาในเดือนตุลาคม  ๒๕๒๕  - เดือน มกราคม   ๒๕๒๖    มีการสำรวจเป็นครั้งที่    ๓   โดยทีมงานชุดเดิมและได้รับความช่วยเหลือจากคุณจิรชัย อึ้งวิศิษฐ์วงศ์ จากการสำรวจพบว่ามีแหล่งโบราณคดีมากกว่า  ๑๐  แหล่ง ในจำนวนนี้มีแหล่งที่น่าสนใจ คือแหล่งโบราณคดี " ถ้ำหลังโรงเรียนทับปริก "
          ในการสำรวจครั้งที่  ๓ ศาสตราจารย์ ดร. ดักลาส แอนเดอร์สัน ได้ตัดสินใจเลือกถ้ำหลังโรงเรียนทับปริกเป็นแหล่งที่จะขุดค้นอย่างละเอียด ซึ่งจากการสำรวจพบว่าสภาพแวดล้อมบริเวณถ้ำ เป็นพื้นที่สูง น้ำท่วมไม่ถึงและมีเพิงกำบังลมและฝน เหมาะที่จะเป็นสถานที่พักชั่วคราว
         ในปี  พ.ศ.๒๕๒๖ และ พ.ศ.๒๕๒๘ ศาสตราจารย์ ดร. ดักลาส แอนเดอร์สัน ได้รับทุนสนับสนุนจาก สมาคมภูมิศาสตร์แห่งชาติ กรุงวอชิงตัน (The National Geographic Society) ในการขุดค้นถ้ำหลังโรงเรียน และได้ขุดลึกลงไปถึงชั้นดินที่ ๑๐  จากการคำนวณอายุ  โดยทางวิชาการในชั้นที่  ๙ ให้อายุถึง ๓๗,๐๐๐ ปี แสดงถึงยุคที่น่าสนใจมากในการศึกษาพัฒนาการของมนุษย์ในเอเชีย เมื่อหมู่เกาะฟิลิปปินส์และอินโดนีเชียกับแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นแผ่นดินติดต่อกัน เป็นยุคการอพยพครั้งแรกสุดของมนุษย์ลงไปทางใต้สู่นิวกินี และออสเตรเลีย และเป็นช่วงที่มนุษย์สมัยโบราณ (Homo Sapians) พัฒนามาจากมนุษย์โบราณ (Hominids)
         ใน  ปี พ.ศ.๒๕๓๓ มีการขุดค้นเป็นครั้งสุดท้าย รวมหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบจากการขุดค้นมีทั้งหลุมฝังศพ โครงกระดูก เศษภาชนะดินเผาลายเชือกทาบ เครื่องมือหิน เครื่องมือจากเขาสัตว์และกระดูก รวมทั้งกระดูกสัตว์ขนาดใหญ่    เปลือกหอย     และเมล็ดพืช    หลักฐานทางโบราณคดีเหล่านี้ประมาณอายุได้ ๔๓,๐๐๐ ปี เป็นอย่างน้อย

ความสำคัญต่อชุมชน
    
      เป็นแหล่งศึกษาทางโบราณคดีเกี่ยวกับมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เพราะจากหลักฐานที่พบ คำนวณอายุได้ระหว่าง ๔๓,๐๐๐-๒๗,๐๐๐  ปี ซึ่งอยู่ในยุคไพลสโตซีน (Plistocene) นับว่าเป็นชุมชนที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเก่าแก่ที่สุดบนคาบสมุทรแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่

ลักษณะภูมิประเทศ

          เป็นหุบเขาตั้งอยู่ในลุ่มน้ำกระบี่  (คลองกระบี่ใหญ่) ห่างจากแม่น้ำประมาณ ๔ กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งทะเลประมาณ ๑๒ กิโลเมตร เพิงผาอยู่ในที่โล่งตามรอยบากของภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๗๕   เมตร ภูมิประเทศรอบด้านเป็นที่ราบและที่ราบระหว่างหุบเขา เป็นสวนยางพาราและสวนผลไม้ของชาวบ้าน

เส้นทางเข้าสู่ถ้ำหลังโรงเรียนทับปริก

          ถ้ำหลังโรงเรียนทับปริกอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ  ๑๔ กิโลเมตร เส้นทางเป็นถนนราดยางตลอดสาย สามารถโดยสารรถจักรยานยนต์รับจ้าง   หรือขับรถยนต์เข้าไปโดยผ่านสามแยกตลาดเก่าเลี้ยวขวาไปยังถนนศรีตรัง  เมื่อถึงปากทางเข้าไปบ้านคลองใหญ่เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางถนนราดยาง  จนถึงโรงเรียนทับปริกจึงเดินเท้าเข้าไปทางหลังโรงเรียนลัดเลาะชายป่าและเชิงเขาก็จะถึงเพิงผาที่เป็นแหล่งขุดค้น

แหล่งสารสนเทศที่เป็นบุคคล


นายตรึก ปลอดฤทธิ์
                 ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน สาขาศิลปะการแสดง

ประวัติ


         นายตรึก  ปลอดฤทธิ์  เป็นบุตรนายส้อง  นางเนี่ยว ปลอดฤทธิ์ เกิดที่บ้านโคกยางอำเภอเมือง (ปัจจุบันเป็นกิ่ง อำเภอเหนือคลอง) จังหวัดกระบี่ ภรรยาชื่อนางจาบ มีบุตร ๘ คน เป็นชาย ๖ คน หญิง ๒ คน ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ ๔๒ ม.๗ ตำบลโคกยาง กิ่ง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่
         นายตรึก   ปลอดฤทธิ์  เริ่มสนใจการเล่นลิเกป่ามาตั้งแต่อายุ  ๒๐  ปี  โดยได้ทดลองฝึกหัดท่ารำกับครูสวาสดิ์ แก้วโลก และครูเดช แก้วทิพย์ ซึ่งเป็นลิเกมีชื่อในหมู่บ้านขณะนั้นครูเห็นว่ามีแววที่จะเล่นลิเกป่าได้ จึงได้สนับสนุนให้แสดงต่อมา เมื่อครูทั้งสองถึงแก่กรรมจึงหยุดการเล่นลิเกไประยะหนึ่ง ต่อมาประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๐ จึงได้รวมสมัครพรรคพวกตั้งเป็นคณะลิเกป่าขึ้นอีกครั้ง  เพราะเห็นว่าการเล่นดังกล่าวจะสูญหายไป นายตรึก ปลอดฤทธิ์ได้แสดงเป็นตัวแขกแดงซึ่งเป็นตัวสำคัญมาตลอด ด้วยความสามารถเฉพาะตัวทำให้เป็นที่รู้จักกันทั่วไป    ลิเกป่านายตรึกจึงออกแสดงทั่วไปในจังหวัดทางฝั่งทะเลตะวันตกในขณะนั้น     ต่อมาศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ได้จัดประกวดการแข่งขันลิเกป่าขึ้น  
คณะนายตรึกได้รับการคัดเลือกให้ชนะเลิศจากวันนั้นเป็นต้นมา นายตรึก ปลอดฤทธิ์ ได้สร้างผลงานมาตลอดจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ในที่สุดก็ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัล ในฐานะผู้อนุรักษ์มรดกไทยดีเด่นจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และในปี  พ.ศ.๒๕๓๗   ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม   ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


ผลงาน


นายตรึก ปลอดฤทธิ์
1.              ฝึกสอนลูกศิษย์ให้ถ่ายทอดการเล่นลิเกป่ามาหลายรุ่น  เช่น  นายวัง  แก้วโลก  นายรวม แก้วทิพย์ นายดำ แก้วทิพย์ ปัจจุบันได้ฝึกลิเกป่าผู้หญิงไว้ ๑ ชุด ฝึกกลุ่ม เยาวชนในหมู่บ้านไว้อีก ๑ ชุด       
2.             ฝึกสอนเยาวชนในหมู่บ้านฝึกรำโนราพื้นฐาน ๑  ชุด
3.             จัดแสดงลิเกป่าเพื่อการสาธิต การเผยแพร่ในโอกาสต่างๆ เป็นจำนวนมาก
4.             ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ฝึกการแสดงทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน ในการถ่ายทำภาพยนต์ และเข้าร่วมแสดงเป็นตัวประกอบในภาพยนต์ต่างประเทศเรื่อง "A safe place" ของ "John Sayles"
เกียรติคุณที่ได้รับ
1.             ได้รับโล่เกียรติยศจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ  ในการแข่งขันลิเกป่าที่ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ปี ๒๕๒๔
2.             ได้รับโล่และเข็มเกียรติคุณ   จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะผู้อนุรักษ์มรดกไทยดีเด่นปี ๒๕๓๕
3.             ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๓๗ โดยได้รับพระราชทานโล่เกียรติคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี



แหล่งสารสนเทศที่เป็นเหตุการณ์

หัวหน้า ปภ.กระบี่ แจ้งตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุด 9 ราย สูญหายอีก 3 ราย ในพื้นที่ประสบอุทกภัย
นาย เถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกระบี่ เปิดเผยถึง ความคืบหน้า การค้นหาผู้เสียชีวิต และสูญหาย จากอุทกภัยและดินถล่ม ขณะนี้มียอดสรุปผู้ที่เสียชีวิตที่แน่นอนแล้ว จำนวน 9 ราย
โดยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ภูเขาถล่ม ที่หมู่ที่ 7 บ้านต้นหาร ต.หน้าเขา 8 ราย ประกอบด้วย นายไพศาล ชูศรี อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 90 ม.7 ต.หน้าเขา นางแก้วดารา แข็งขัน อายุ 49 ปี บ้ายเลขที่ 4 ม.7 ต.หน้าเขา นายสมบูรณ์ ทองเนียม อายุ 72 ปี นางมัทนา ชูศรี อายุ 29 ปี 90 ม.7 ต.หน้าเขา นางพริก ทองเนียม อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 26 ม.7 ต.หน้าเขา นายสมเกียรติ เกษแก้ว (สามีของนางเกษวลี ทองเนียม) อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 ม.11 ต.ภูเงิน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ด.ญ.อันธิกา ชูศรี อายุ 6 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.7 ต.หน้าเขา นางหนูเปรียม ทองโอ อายุ 35 ปี ม.6 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ และอีกหนึ่งรายเสียชีวิตจากจมน้ำที่ ต.พรุเตียว อ.เขาพนม คือ ด.ช.สุริยา เดชค้ำ อายุ 14 ปี อยู่บ้าน 176 ม.4 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม
วันที่  4 มีนาคม เกิดแผ่นดินแยก 15 เมตร ที่อ่าวลึก กระบี่
น้ำท่วมกระบี่เริ่มทรงตัวแล้ว ขณะที่เกิดเหตุแผ่นดินแยกตัวยาวประมาณ 15 เมตร ที่ ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กำแพงบ้านแตกร้าวเสียหายเกือบทั้งหลัง  สถานการณ์น้ำท่วม จ.กระบี่ หลังจากได้เกิดเหตุดินถล่มในหลายพื้นที่ รวมถึงภาวะน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนเดือดร้อนจำนวนมากนั้น ทางด้าน นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทางจังหวัดได้ประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงนายอำเภอทุกอำเภอและผู้นำท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเวลา 20.00 น.ของทุกคืน เพื่อประเมินสถานการณ์ในแต่ละวัน ซึ่งขณะนี้สภาพโดยรวมเริ่มทรงตัว อย่างไรก็ตาม การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบภัยพิบัติ โดยเฉพาะประชาชน อ.เขาพนม อ.อ่าวลึก อ.เมือง ขณะนี้ทางจังหวัด ได้อพยพชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงออกมาแล้ว และกำลังสำรวจจัดหาพื้นที่ใหม่ เพื่อสร้างบ้านน็อกดาวน์ให้ชาวบ้านที่ไร้ที่อยู่อาศัยทั้งหมด
ด้านนายมเนาว์ ศรีชาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าเขา จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอบต. ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ศูนย์อพยพวัดถ้ำโกบ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมดกว่า 100 คน อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างแออัด ทั้งนี้ ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กำลังนำเต็นท์ชั่วคราวมาเสริมอีกจำนวนหนึ่งแล้ว ส่วนในเรื่องเครื่องอุปโภค - บริโภค และยาเวชภัณฑ์นั้น ทางเจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานภาครัฐ เอกชนต่าง ๆ ได้ทำแจกจ่ายอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางจังหวัดจะประเมินสถานการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าจะสามารถให้ชาวบ้าน กลับเข้าไปอยู่ยังที่พักอาศัยเดิมได้หรือไม่ เนื่องจากเกรงว่า จะเกิดเหตุการดินถล่มซ้ำอีก ซึ่งในเรื่องของการหาที่อยู่ใหม่ให้ชาวบ้านที่บ้านพังเสียหายทั้งหลังนั้น ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อยู่ระหว่างการสร้างบ้านน็อคดาวน์ ทั้งนี้ คาดว่า ภายใน 20 วัน น่าจะเสร็จสมบูรณ์ ชาวบ้านสามารถย้ายเข้าอยู่ได้เลย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม อ.เขาพนมนั้น ล่าสุด พบศพเป็นรายที่ 10 แล้ว  ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เกิดแผ่นดินแยกตัวที่บริเวณ หมู่ที่ 2 บ้านนบ ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ทำให้บ้านปูนชั้นเดียวของนายยูโซบ จิตรเหล็ก อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 27/2 ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ เสียหาย 1 หลัง
จากการตรวจสอบตัวบ้านพบว่า ที่บริเวณห้องครัวและห้องน้ำ มีผนังปูนแยกออกจากกัน และในส่วนกระเบื้องก็พบรอยแตกร้าว เห็นได้ชัดเจน โดยข้างบ้านที่เป็นพื้นดิน พบว่า มีรอยแผ่นดินแยกออกจากกันเป็นทางยาวประมาณ 15 เมตร และลึกลงไปประมาณ 2 เมตรอีกด้วย
วันที่  1 เมษายน ดินถล่มกระบี่ ดับแล้ว 5 ราย สูญหายอีก 7
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เผย ยอดผู้เสียชีวิต เหตุดินถล่มเขาพนม จ.กระบี่ 5 ราย ขณะผู้ว่าฯสั่ง เจ้าหน้าที่ ห้ามขาด - ลา ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน อย่างเร่งด่วน
นายอุเทน ตัณตรีบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สภาพอากาศในพื้นที่ทั่วทั้งจังหวัดในเช้านี้ ท้องฟ้าเปิด ไม่มีเมฆฝนแล้ว ส่วนสถานการณ์ความช่วยเหลือผู้ติดค้างเหตุการณ์ดินถล่ม บริเวณหมู่ 7 หมู่ 10 บ้านคลองแห้ง บ้านหน้าเขา ใน อ.เขาพนม นั้น ทางด้าน นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้ลงพื้นที่ออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเรียกประชุมหัวหน้าหน่วยราชการทุกวัน เพื่อหาหนทางการเข้าให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ติดค้างให้ออกมาโดยเร็ว รวมถึงการนำสิ่งของเครื่องอุปโภค - บริโภค แจกจ่ายแก่ชาวบ้านที่ศูนย์อพยพวัดถ้ำโกบ และอบต.หน้าเขา ให้ได้รับอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ยังสั่งการให้หัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่เข้าพบปะพูดคุยชาวบ้านในทุกพื้นที่ เพื่อเก็บข้อมูลอย่างละเอียด รวมถึงสั่งห้ามขาด - ลา ในช่วงนี้ เพื่อทำการช่วยเหลือแก้ปัญหาให้ชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม อ.เขาพนมนั้น มีจำนวน 5 คน ยอดผู้สูญหายประมาณ 7 คน และได้รับความเดือดร้อนไร้ที่อยู่ 7 ครอบครัว ซึ่งขณะนี้ทางผู้ว่าฯได้เร่งจัดหาที่อยู่อาศัย เพื่อให้ความช่วยเหลือได้เบื้องต้นแล้ว
วันที่  31 มีนาคม  ดินถล่มกระบี่ ดับแล้ว 3 บาดเจ็บ 43
ผู้ว่าฯกระบี่ ยืนยัน เหตุดินถล่มมีผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย ขณะเช้านี้ กองพันทหารราบที่ 1 ระดม 200 นาย ค้นหาต่อ ล่าสุดพบศพที่ 3 แล้วเมื่อช่วงบ่าย ด้าน สธ.ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยแล้ว
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยความคืบหน้า เหตุดินถล่มในพื้นที่เชิงเขาพนม ม.7 และ ม.8 วานนี้ จากการตรวจสอบสถานการณ์ล่าสุดในขณะนี้ พบว่า มีประชาที่พักอาศัยในหมู่บ้านตามเชิงเขาดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งหมด รวม 24 คน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย และสูญหายอีกจำนวน 6 ราย ไม่ได้สูญหายเป็นร้อยตามที่มีข่าวแต่อย่างใด เนื่องจาก หลังจากเกิดเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจและสอบถามจากชาวบ้านว่ามีครอบครัวไหนที่มีสมาชิก ไม่ครบ ซึ่งพบว่ามีจำนวนเพียง 6 รายเท่านั้น ส่วนพื้นที่ ที่ถูกดินถล่มและถูกน้ำพัดเสียหาย รวมพื้นดินหายไปจำนวน 200 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นสวนยาง และรวมบ้านเรือน จำนวน 17 หลังคาเรือน ส่วนสาเหตุนั้น น่าจะเกิดจากพื้นที่ดังกล่าวมีความชุ่มน้ำมาก เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ทางด้าน พ.อ.ทิม เรือนโต ผู้บังคับการกองพันทหาร ราบที่ 1 กองพันทหารราบที่ 15 เปิดเผยว่า จากการระดมกำลังเข้าค้นหาผู้สูญหายและเสียชีวิต โดยพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่นั้นได้เข้าไปใน หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8 โดยในเช้าวันนี้จะระดมกำลังทีมกู้ภัยอีกจำนวน 200 นาย เข้าค้นหาอีกครั้ง ทั้งนี้ ยอมรับว่า การให้ความช่วยเหลือนั้นเป็นไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจาก ทางเข้าลำบาก ซึ่งวันนี้คาดว่าจะค้นหาสะดวกมากขึ้นเนื่องจาก ทางทหารช่างกองพันที่ 5 ได้เปิดเส้นทางไว้พร้อมแล้ว
ด้านนายแพทย์สันติ ยูตนันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขาพนม จ.กระบี่ เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดินถล่ม บริเวณหมู่ 7, หมู่ 10, บ้านคลองแห้ง บ้านหน้าเขา ใน อ.เขาพนม ถูกนำตัวเข้ารักษาจำนวนทั้งสิ้น 43 ราย เป็นชาย 21 ราย หญิง 22 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส กระดูกแขน - ขา หัก จำนวน 7 คน และถูกลำเลียงส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกระบี่ 3 ราย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเขาพนมมีจำนวนน้อย จึงไม่เพียงพอต่อการให้ความดูแลผู้บาดเจ็บได้ทั้งหมด รวมถึงเครื่องมือทางการแพทย์ที่ยังขาดแคลนอยู่ ทั้งนี้ ได้ขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน เป็นหน่วยที่มีความพร้อม ในเรื่องของทีมแพทย์ ทั้งเครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ 30 มี.ค. ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางมาประจำอยู่ที่เทศบาลเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีกองทัพภาค 4 ซึ่งมาประจำการอยู่ที่โรงพยาบาลเขาพนมแล้วเช่นกัน
จากนั้น ในเวลาต่อมา นายมเนาว์ ศรีชาย นายก อบต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือชาวบ้านว่า ขณะนี้ทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยกำลังอยู่ระหว่างการเข้าไปในพื้นที่บริเวณที่เกิดดินสไลด์ ซึ่งจุดที่หนักที่สุด คือ หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 6 ที่มีประชากรทั้งสิ้น 172 ครัวเรือน ประมาณ 700 ชีวิต โดยขณะนี้ทางการกำลังเร่งเคลื่อนย้ายประชาชนไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวที่วัดถ้ำเขาดิน และวัดถ้ำโกบ ตอนนี้อพยพไปแล้วประมาณ 400-500 คน

          ทั้งนี้ในวันนี้ได้พบผู้เสียชีวิต เป็นรายที่ 3 เมื่อตอนประมาณเที่ยงที่ผ่านมา พร้อมกันนั้นได้ขนย้ายผู้บาดเจ็บเกือบ 20 ราย ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเขาพนมแล้ว
นายก อบต.หน้าเขา ยังกล่าวต่อว่า ชั่วชีวิตของตนไม่เคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย บริเวณตำบลหน้าเขา ไม่เคยเกิดเกตุดินสไลด์ดินถล่มมาก่อน ซึ่งครั้งนี้ทางการก็แจ้งเตือนมา แต่คนในพื้นที่ก็ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ ทำให้บางส่วนอพยพไม่ทัน แต่ก็ต้องขอบคุณทุกหน่วยที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่
ขณะที่ น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการดูแลผู้บาดเจ็บจากเหตุโคลนถล่มที่ ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ว่า ขณะนี้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 8 คน เข้าถึงพื้นที่ประสบภัยแล้ว และได้ตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราว ที่วัดถ้ำโกบ ต.หน้าเขา อ.เขาพนม เพื่อดูแลรักษาผู้บาดเจ็บหรือผู้ประสบภัย จากเหตุโคลนถล่มอย่างเต็มที่ ซึ่งจุดวิกฤติที่หมู่ 6 และ 7 ตำบลหน้าเขา โรงพยาบาลสนามจะมีเตียงรับผู้ป่วย เวชภัณฑ์การรักษา ชุดทำแผล ชุดใส่เฝือก หากมีผู้ป่วยหนักจะส่งรักษาต่อใน ร.พ.เขาพนม หรือที่โรงพยาบาลอื่นตามความเหมาะสม
สำหรับผู้บาดเจ็บที่รักษาตัว ที่โรงพยาบาลเขาพนม ประมาณร้อยละ 60 มีบาดแผลตามร่างกายและเปื้อนดินโคลน เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อยู่ในดินโคลน ที่น่าห่วงคือ เชื้อบาดทะยัก ทีมแพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อ และทำแผลป้องกันการติดเชื้อ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักทุกคน โดยมีอาการปลอดภัย ยังไม่พบบาดแผลการอักเสบ วันนี้ แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 4 ราย ที่เหลือนอนในโรงพยาบาล 13 ราย และได้ให้นักจิตวิทยา จิตแพทย์ดูแลด้านจิตใจ เนื่องจากบางรายสูญเสียบ้านทั้งหลัง สูญเสียทรัพย์สิน และญาติ
ดินถล่มหมู่บ้านช่องไม้ดำจังหวัดกระบี่
เจ้าหน้าที่ศูนย์นเรนทร จ.กระบี่ เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เกิดเหตุดินถล่มในพื้นที่ หมู่บ้านช่องไม้ดำ ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก เนื่องจาก สภาพอากาศในวันนี้ ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก และยังส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง ถนนสายไทรบุรี - เขาพนม รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
ขณะที่ในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ ได้เกิดมอเตอร์น้ำประปาแตก ทำให้ประชาชนที่ใช้น้ำประปา ในเขตเทศบาล และ อ.เมือง ไม่มีน้ำประปาใช้ รวมถึง ร.พ.กระบี่ด้วย ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังระดมกำลังขนถ่ายน้ำเข้าไปยังโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีประชาชนที่อยู่บริเวณศูนย์อพยพ ถ้ำเขาโกบ และอบต.หน้าเขา กว่า 500 ชีวิต ที่ได้รับความเดือดร้อน จากเหตุการณ์ดินถล่ม อ.เขาพนม ยังคงรอการช่วยเหลือและสิ่งของบริจาคจากหน่วยงานราชการอยู

วันที่  30 มีนาคม  นํ้าท่วมกระบี่ ระทึก! ดินถล่มหมู่บ้านอิสลามเขาพนม
นํ้าท่วมกระบี่ หลังฝนตกหนักติดต่อกันนาน 2 วัน หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมขัง ถนนหลายเส้นทางถูกตัดขาด รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้  ขณะที่เกิดดินถล่มที่หมู่บ้านอิสลาม อำเภอเขาพนม ชาวบ้านติด 200-300 คน เสียชีวิตแล้ว 10 คน เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือทุลักทุเล
หลังจากที่ฝนตกหนักติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ล่าสุดวันนี้ (30 มีนาคม) นํ้ายังคงท่วมจังหวัดกระบี่ในหลายพื้นที่ โดยที่อำเภอเมืองกระบี่ น้ำท่วมตามถนนในเขตเทศบาล ซึ่ง ถนนอุตรกิต ถนนวัชระ และถนนมหาราช บางช่วงรถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ ขณะที่ถนนสายเพชรเกษม ตำบลกระบี่น้อย รถวิ่งได้เลนเดียว  ทางด้านศูนย์ปลอดภัยคมนาคมกระบี่/ชมรมเออาร์รักกระบี่ เผยริมฝั่งคลองปกาสัย อำเภอเหนือคลอง  น้ำเอ่อล้นจากเขาพนมเบญจา และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  คาดว่าน่าจะหนักกว่าเมื่อคืน แจ้งอพยพประชาชนด่วน    ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมอำเภอเขาพนม เกิดดินถล่มมีชาวบ้านเสียชีวิตแล้ว 10 ราย โดยศูนย์นเรนทร จ.กระบี่ รายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 มีนาคม ที่บริเวณหมู่บ้านห้วยแก้ว หมู่ 7 ตำบลหน้าเขา อำเภอเขาพนม ซึ่งเป็นชุมชนของชาวอิสลาม ได้เกิดเหตุดินโคลนถล่ม ทำให้มีประชาชนติดค้างอยู่ในบริเวณดังกล่าว ประมาณ 200-300 คน และเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 10 ราย ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากดินสไลด์มาปิดทาง ทำให้รถไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ออกมาได้แล้ว 42 ราย เป็นชาย 15 ราย หญิง 15 ราย เด็ก 12 ราย ส่งโรงพยาบาลเขาพนมแล้ว สูญหายอีกนับสิบราย ขณะที่ นพ.สันติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขาพนม ได้กล่าวว่า ตอนนี้กำลังขาดแคลนบุคลากรทางแพทย์ และต้องการบุคคลากรทางการแพทย์ เพื่อรองรับคนเจ็บที่กำลังทยอยออกมาเรื่อย ๆ และตอนนี้มีคนไข้อาการสาหัส 7คน ส่วนใหญ่เจอไม้กระแทก
ด้าน ผู้ว่าฯ กระบี่ ตั้งศูนย์ช่วยเหลือชาวบ้านใน 3 ตำบล และจนถึงขณะนี้การติดต่อสื่อสารถูกตัดขาด ไฟฟ้าดับ น้ำประปาไม่ไหล และต้องผวาโคลนถล่ม! การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก  ขณะที่ หมู่ 7, หมู่ 10, บ้านคลองแห้ง, บ้านหน้าเขา เขาพนม กระบี่ น่าห่วง ทีมช่วยเหลือ ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ น้ำป่าไหลซ้ำลงมาอีกระลอก และขณะนี้ภูเขาสั่นไหว หวั่นถล่มซ้ำ ทีมช่วยเหลือถอยชั่วคราว ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ ขณะเดียวกัน ทางการได้แจ้งเตือนประชาชน ที่อยู่ริมเขาพนมเบญจา จ.กระบี่ ขอให้อพยพออกห่างจากลำน้ำลำคลอง เพราะปริมาณน้ำจากเขาพนมเบญจาไหลแรงมาก


ผลกระทบด้านบวก

                ทำให้เกิดความรัก  ความสามัคคีของคนในชุมชนและมีมิตรไมตรีต่อกัน  และเอื้อเฟื้อ เผื่อแพร่ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ผลกระทบด้านลบ

              เกิดความเสียหายทั้งที่อยู่ อาศัยและที่ทำมาหากิน ทำให้ผู้ประสบภัยเกิดความเดือนร้อน และเกิดการสูญเสียคนที่ตัวเองรักไป ขาดแคลนอาหาร  เครื่องดื่ม และสิ่งที่ตามมา คือ โรคระบาด
              

แหล่งสารสนเทศสื่อสารมวลชน

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เพื่อการศึกษา จังหวัดกระบี่    
                                                               
ที่ตั้ง
 ถ.ท่าเรือ ต.ปากน้ำ อ.เมือง  จ.กระบี่  81000


เบอร์โทรศัพท์


โทร 075-611166 ,01-8346916  โทรสาร 075-611033

เว็บไซต์
               
   -http://radioeducation.prd.go.th/krabi

 แหล่งสารสนเทศที่เป็นอินเทอร์เน็ต

เว็บไซต์


 http:// www.krabi.go.th   รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่  แหล่งท่องเที่ยว ข้อมูลอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัด

ผู้ดูแลรับผิดชอบ


จัดทำโดย กลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานจังหวัดกระบี่

ที่ตั้ง

ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ถนนอุตรกิจ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81000


บรรณานุกรม



ณัฐ.    ( 2554).    พิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม.    ค้นคืนเมื่อ.    กรกฎาคม  23,2554จาก   http  :  //   

นภดล.     (2010).    แหล่งโบราณคดีถ้ำหลังโรงเรียนทับปริก.    ค้นคืนเมื่อ.  กรกฎาคม  23,2554,  จาก    
นภดล.    (2010).    แหล่งสารสนเทศที่เป็นเหตุการณ์.    ค้นคืนเมื่อ.    กรกฎาคม  23,2554,  จาก 

ห้องสมุดประชาชนจังหวัดกระบี่.    (2554).    ค้นคืนเมื่อ.  กรกฎาคม  23,2554,  จาก 
              http  ://  krabi.nfe.go.th/mk_lib/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=8.


แหล่งสารสนเทศที่ป็นสถานที่.    (2554).    ค้นคืนเมื่อ.  กรกฎาคม  23,2554,  จาก

แหล่งสารสนเทศสื่อสารมวลชนจังหวัดกระบี่.     ค้นคืนเมื่อ.  กรกฎาคม  23,2554,  จาก

แหล่งสารสนเทศที่เป็นอินเทอร์เน็ตจังหวัดกระบี่.    ค้นคืนเมื่อ.  กรกฎาคม  23,2554,  จาก