ภูมิศาสตร์ก่อนเกิดสึนามิ จังหวัดกระบี่
¨สภาพภูมิประเทศ กระบี่
สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปของจังหวัดกระบี่ ทางตอนเหนือประกอบด้วยเทือกเขายาวทอดตัวไปในแนวเหนือใต้ สลับกับสภาพพื้นที่แบบลูกคลื่นลอนลาด และลอนชัน มีที่ราบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก บริเวณทางใต้ มีสภาพภูมิอากาศเป็นภูเขากระจัดกระจาย สลับกับพื้นที่แบบลูกคลื่น ส่วนบริเวณทางตอนใต้สุดและตะวันตกเฉียงใต้ มีสภาพพื้นที่เป็นแบบลูกคลื่นลอนลาดจนถึงค่อนข้างเรียบ และมีภูเขาสูงๆ ต่ำๆ สลับกันไป บริเวณด้านตะวันตกมีลักษณะ เป็นชายฝั่งติดกับทะเลอันดามันยาวประมาณ 160 กม. ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ประมาณ 130 เกาะ แต่เป็นเกาะที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 13 เกาะ เกาะที่สำคัญได้แก่ เกาะลันตา เป็นที่ตั้งของอำเภอเกาะลันตา และเกาะพีพี ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับของโลก บริเวณตัวเมืองมีแม่น้ำกระบี่ ยาวประมาณ 5 กม. ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามัน ที่ ต.ปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย ซึ่งมี่ต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาพนมเบญจา เทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่
ลักษณะภูมิอากาศ กระบี่
¨จังหวัดกระบี่ มีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกตลอดปี และมีเพียง 2 ฤดู คือ
¨- ฤดูร้อน มี 4 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนเมษายน
¨- ฤดูฝน มี 8 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม
ภูมิศาสตร์หลังเกิดสึนามิ จังหวัดกระบี่
¨การเปลี่ยนแปลงของสภาพเกิดหลังสึนามิ เมื่อก่อนจะมีต้นไม้เยอะ ตามชายหาดจะร่มรื่นกว่านี้ แต่สึนามิทำให้ต้นไม้ตายปัจจุบันเลยร้อนขึ้น
ในทะเลก็เช่นกัน เมื่อก่อนตามชายฝั่งน้ำตื้นจะมีปะการัง แต่เดี๋ยวนี้มีแต่หินเต็มไปหมด เนื่องจากสึนามิพามา ซึ่งสร้างความลำบาก และความ
สวยงามทางทัศนียภภาพลดลงอย่างเห็นได้ชั
¨หลังสึนามิไม่ได้มีแต่เรื่องเลวร้ายไปทุกอย่าง เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำให้น้ำทะเลใส่ขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากแต่ก่อนร้านอาหาร บังกะโล
รีสอร์ทจะทิ้งน้ำเสียลงทะเล ทำให้คุณภาพของน้ำเสื่อมลง อาทิเช่น ถ้าให้เปรียบเทียบทะเลเกาะพีพีระหว่างก่อนและหลังเกิดสึนามิ เพราะนัก
ท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ไม่มั่ว ทำให้สภาพแวดล้อมดูดีขึ้น
ในส่วนของความเปลี่ยนแปลงในทะเลที่เห็นได้ชัดก็คือ ตอนน้ำลดจะเห็นพวกหินปะการังสีดำที่ตายแล้ว ไม่มีประโยชน์ใดๆ และยังสร้างควาเดือดร้อนให้กับ
นักเดินเรือ เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนเกิดสึนามิ ตอนน้ำขึ้นจะขับเรือแล่นได้ตลอดแนว แต่ใน ณ ตอนนี้การเดินเรือรวมถึงการจอดเรือตามชายฝั่งก็
ลำบากมากขึ้นเพราะต้องระมัดระวังโขดหินเหล่านี้ ทั้งยังทำให้ทัศนียภาพไม่สวยงาม และยังทำให้ระบบนิเวศในทะเลเปลี่ยนแปลงไปมาก ปลาลดน้อยลง
นาวปะการังเสียหาย ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตทั้งสัตว์ใต้ท้องทะเล และการดำรงชีวิตของคนอีกด้วย
¨สำหรับความเปลี่ยนแปลงสภาพโดยทั่วไปที่เห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่ง บนเกาะพีพี คือ บ่อบำบัดน้ำเสีย ในพื้นที่ขนาดใหญ่
ประมาณ 6,300 ตารางเมตร ซึ่งใช้พื้นที่บ่อบำบัดน้ำเสียเดิม ใกล้กับทางขึ้นจุดชมวิว(view point) ที่บริเวณตรงนี้เคยเป็นสุสานของ
นักท่องเที่ยวและชาวบ้านนับร้อยศพ ที่โดนคลื่นยักษ์ซัดตกลงไปในบ่อ เมื่อเห็นบ่อแห่งนี้เมื่อไรก็สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้คนที่รอดชีวิต จึงได้
จัดสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียใหม่ขึ้นเป็นลักษณะแบบบึงประดิษฐ์ ทำให้สภาพน้ำมีคุณภาพมากขึ้น ในส่วนบิเวณต่างๆ ของจังหวัดกระบี่ที่ได้รับผลกระ
ทบจากการเกิดสึนามิได้ มีการตั้ง หอเตือนภัยพิบัติไว้หลายแห่งเช่นเดียวกัน
เปรียบเทียบสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาก่อนและหลังเกิดสึนาม
จากพิบัติภัยคลื่นยักษ์ “สึนามิ” ที่ซัดเข้าสู่ฝั่งทะเลอันดามัน เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินใน 6
จังหวัดภาคใต้ของไทยเป็นอย่างมาก ขณะนี้ได้เริ่มงานตาม “แผนบูรณาการฟื้นฟูผลกระทบจากพิบัติภัยสึนามิ” ไปมากแล้ว การสำรวจและ
ประเมินความเสียหายของธรรมชาติและระบบนิเวศใต้ทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนบูรณาการฟื้นฟูฯ และศึกษาผลกระทบและความเสียหายของ
ระบบนิเวศใต้ทะเล รวมทั้งสิ้น ๓๘ จุด สรุปภาพความเสียหายโดยรวมคือ พบว่าร้อยละ ๕-๘๐ เกิดการแตกหักของกิ่งหรือก้อนปะการัง การ
เลื่อนตัวของทรายบนพื้นลาดและมีสิ่งตกค้างในแนวปะการัง ปริมาณแบคทีเรียในน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ผลสำรวจหญ้าทะเลมากกว่าร้อยละ 70
ของพื้นที่แหล่งหญ้า ได้รับผลกระทบเพียงร้อยละ ๕ ของพื้นที่
จังหวัดกระบี่ แนวปะการังที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก คือ พื้นที่หมู่เกาะพีพี (บางส่วน) เกาะไผ่ อ่าวโละลาน้า (พีพีดอน) หัวเกาะฝั่งตะวัน
ออกของพีพีเล เกาะด้ามหอก แหลมหางนาค ร่องน้ำระหว่างเกาะรอกใน-เกาะรอกนอก
ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศไทย ก่อนและหลังเกิดสึนามิ
ความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สิน
¨มีจำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหาย ในประเทศไทย มีจำนวนทั้งหมด 5,309 คน ผู้สูญหายจำนวนทั้งหมด 3,370 คน ต่อมาได้มีการรับแจ้งจากญาติพี่น้องของผู้ประสบภัยภายหลังการเกิดเหตุ จำนวนดังกล่าวนี้ลดลงเพราะได้พบผู้ที่รับแจ้งว่าสูญหายบางคนแล้ว นอกจากนี้ยังมีการค้นพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการตรวจสอบเอกลักษณ์ของศพที่เก็บรักษาไว้เพื่อให้ทราบว่าเป็นผู้ใด ในรายงานของกระทรวงมหาดไทยที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2548
¨นอกจากมีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหายเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีความเสียหายในด้านทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านเรือนของราษฎร โรงแรม บังกะโล เกสต์เฮาส์ ร้านค้า ร้านอาหาร ทรัพย์สินส่วนตัวของนักท่องเที่ยว ยานพาหนะ ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ถนน เป็นมูลค่ากว่าพันล้านบาท
ความเสียหายด้านเศรษฐกิจ
¨ด้านเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ภูเก็ต พังงา และกระบี่
ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเสียชีวิต และบาดเจ็บมากที่สุด มีแหล่งท่องเที่ยวได้รับความเสียหายมาก จำนวน 8 แห่ง คือ
ชายทะเลเขาหลักในอุทยานแห่งชาติเขาหลัก ลำรู่ ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา (เป็นจุดที่
นักท่องเที่ยวเสียชีวิตและบาดเจ็บมากที่สุด)
¨เกาะสิมิลัน อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
¨หาดราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองฯ จังหวัดภูเก็ตช
¨หาดกะรน ตำบลกะรน อำเภอเมืองฯ จังหวัดภูเก็ต
¨หาดกะทู้ ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต
¨หาดกมลา ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต
¨หาดป่าตอง ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต
¨เกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่
รวมอีกทั้ง จังหวัดระนอง
ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
¨ทำให้นักท่องเที่ยวซบเซาลง
¨รายได้ของประเทศทางด้านการท่องเที่ยวลดน้อยลง
¨ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวปิดตัวลง
¨ขาดความมั่นคงทงด้านการเงิน